Friday, February 14, 2014

Happy Valentine's Day

 

Happy Valentine's Day

สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับทุกคน ใครมีแฟนก็ขอให้รักกันนานๆ ใครยังไม่มีก็ขอให้มีคนรักคนหลงตลอดไปเลยเนอะ วันนี้ขอมอบเพลงแต่งงานสุดฟีลกู๊ดที่ยุคหนึ่งเคยเป็นเพลงที่ยึดครองโควต้าเพลงประกอบหนังรักโรแมนติกมากมายแห่งยุค 90 เอาไปฟังกันให้ฉ่ำพร้อมมโนเอาว่าตัวเองเป็นจูเลีย โรเบิร์ตส์ ใส่ชุดกรุยกรายในสวน แหวนเพชรวงเท่าไข่ไก่ แขกเหรื่อมากันพร้อมหน้า จิบแก้วแชมเปญชนกันไปมา มโนซะให้สะใจก่อนเข้านอนวันนี้นะจ๊ะ

Tuesday, February 4, 2014

Bruno Mars Nailed Superbowl Halftime Show 2014!!!

(อย่าลืมเปิดระบบ "เฮ็ดดี" ด้วยนะจ๊ะ)
 

Bruno Mars Nailed Superbowl Halftime Show 2014!!!

 

มีแต่เรื่องให้ตื่นตาตื่นใจกันไม่เว้นแต่ละวัน เมื่อวันที่ 3 นี้เป็นอีกหนึ่งวันที่โลกต้องเกาะขอบจอกันอีกครั้ง (โดยเฉพาะในภูมิภาคที่เรียกว่าอเมริกา) กับการถ่ายทอดสดอเมริกันฟุตบอลครั้งใหญ่ประจำปี ซึ่งถามว่าใครแข่งกับใคร จะชนะใครกี่ศูนย์ ไม่ใช่เรื่องของเราเลยจ้าาา! เพราะสิ่งที่เราสนใจนั่นคือโชว์พักครึ่งหรือที่เรียกว่า Superbowl Halftime Show ต่างหากล่ะ จะไม่ให้สนใจยังไงไหว ก็การแสดงคั่นเวลา ณ สนามแห่งนี้มีศิลปินระดับโลกมาแสดงกันหมดแล้วตั้งแต่ Michael Jackson, U2, Prince, Black Eyed Peas, Madonna หรือกระทั่งแม่บี Beyonce ก็มา เป็นเวทีขนาดมโหฬารที่การถ่ายทอดสดเพียง 14 นาทีมีคนดูไม่ต่ำกว่า 110 ล้านคน กลายเป็นโอกาสครั้งใหญ่สำหรับศิลปินขวัญใจอเมริกันให้มาเรียกคะแนนความนิยมให้กับตัวเองกันเป็นแถว บางรายได้ขึ้นแสดงก็ขายอัลบั้มรวมฮิตถล่มทะลาย แอร์เพลย์พุ่งกระฉูด ได้แผ่นเสียงแพลตตินั่มก็มีมาแล้ว

สำหรับปีนี้โอกาสทองนั้นได้ตกไปอยู่ในกำมือของหนุ่มวัย 28 ปีเจ้าของส่วนสูง 164 เซนติเมตรนามว่า Bruno Mars นั่นเอง ไม่แปลกใจที่หนุ่มบรูโน่ ได้รับเชิญให้มาแสดงในครั้งนี้เพราะนอกจากมีความสามารถทางดนตรีอันล้นเหลือที่ฝึกปรือวิชาการแสดงสดบนเวทีตั้งแต่อายุได้ 4 ขวบแล้วยังมีเซ็กซ์แอพเพียลโดนใจสาวแก่แม่หม้ายมากมายให้หลงไหลกันไปตามๆกัน

จากเครื่องดนตรีที่นายคนนี้เล่นเป็นทั้งหมดคือ กลอง กีตาร์ เบส คีย์บอร์ด เปียโน และบีทบ็อกซ์ คุณพี่เลือกที่จะเปิดโชว์ด้วยทักษะการเล่นกลองระดับเทพที่ปลายแคทวอล์คแล้วให้ระบบไฮโดรลิกค่อยๆ ลากกลองชุดนั้นเข้ามาสู่ใจกลางเวทีใหญ่ที่ถูกจับจ้องไปด้วยคนดูกว่า 82,000 คนของ MetLife Stadium ก่อนที่พี่แกจะคว้าไมค์เริ่มประเดิมเพลงแรกด้วย Locked Out of Heaven อันดับหนึ่ง Billboard เมื่อปีที่แล้ว ท่ามกลางแสงสีเสียงและความช่วยเหลือจากพี่ป้าน้าอาวง The Smeezingtons ในชุดยูนิฟอร์มสีทองสุดฟังกี้เข้าชุดพี่บรูโน่ ณ จุดนี้เชื่อว่าหลายคนอาจจะตกลงปลงใจได้แล้วว่ามันคือโชว์ที่ดีกว่าที่เคยดูใน superbowl ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา 

แต่มันยังไม่จบแค่นั้นพี่บรูโน่ต่อเข้าเพลงสองทันทีด้วย Treasure ทั้งร้องทั้งเต้นสุดตัว ท่อนฮุค hi-hat ฉึบฉับรับกับจังหวะกระโดดของคนดูด้านล่าง ต่อด้วย Runaway เพลงเก่าจากอัลบั้มแรก ส่งต่อเข้าสู่จุดพีคสุดของโชว์ด้วยการปรากฏตัวของวง Red Hot Chilli Peppers คือจุดนี้แฟนบอลที่นั่งดูอยู่คงถึงจุดพีคของความฟินเมื่อได้ยินเพลงฮิตจากอัลบั้ม Blood Sugar Sex Magik จากปี 1991 อย่าง Give It Away ดังขึ้นและพี่ Anthony Kiedis ซึ่งน่าจะเป็นบุคคลที่โลกคิดถึงที่สุดคนหนึ่งกลับมาให้เห็นอีกครั้งบนเวทีนี้ร่วมกับหนุ่มบรูโน่ที่ยังกระโดดเอาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย


So why Bruno Mars?

ตอบได้ไม่ยากหลังจากที่ได้ดูโชว์นี้จนจบ แต่ถ้าอยากได้คำตอบแบบวิเคราะห์แล้วละก็ ก่อนอื่นก็ต้องบอกว่า นาย Bruno Mars คนนี้นั้นไม่ได้มีแค่เพลงฮิตยาวเป็นหางว่าว แถมอัลบั้ม Unorthodox Jukebox ของเขายังคว้าแกรมมี่ไปด้วย แต่คล้ายกับ NFL ผู้จัด กำลังจะหาอะไรที่มาตัดอารมณ์กลับเข้ามาสู่ความดิบ มันส์สะใจโยกกันหัวสั่นหัวคลอนซึ่งเป็นรสชาติดั้งเดิมของการแสดงคั่นเวลา superbowl อีกครั้ง หลังจากสองสามปีให้หลังมานี้มีแต่การแสดงของเหล่าเจ๊ๆ ทั้งหลายที่ขนงานร้อง งานเต้น งานแดนซ์เซอร์กันมาเอาใจชะนีวัยใสกันมาหลายรอบแล้ว ก่อนที่ Superbowl จะกลายเป็นเวทีดีวาส์ดาวรุ่งจึงต้องรีบหาศิลปินที่จะดึงกลับมาเอาใจผู้ชมฟุตบอลส่วนใหญ่ซึ่งเป็นผู้ชายอีกครั้ง โดยจะโดดมาเลือก RHCP เลยหรือก็จะดูเป็นการหักดิบเกินไป อย่ากระนั้นเลย เรามีสิ่งที่เรียกว่า Bruno Mars มันคือสิ่งที่ชายก็ชอบด้วยฝืมือความเป็นนักดนตรีระดับเหนือชั้นอย่างที่เห็นในอัลบั้มที่สองของเขา และชะนีก็ปลื้มด้วยเพลงป็อปเอาใจสาวๆ อย่าง Just The Way You Are และการวางตัวโปรโมตของเขาในอัลบั้มแรก

ทำให้ Bruno Mars กลายเป็นศิลปินที่สามารถเชื่อมต่ออารมณ์แบบประณีประนอมระหว่างสองเพศที่เกาะขอบจอดูอยู่ได้อย่างดี โดยไม่ลืมที่จะจัด RHCP มาเป็นเครื่องเคียงตัดความเลี่ยนได้อย่างลงตัว แต่สิ่งที่เจ้าของบล็อกกล้าพูดว่านี่คือการแสดง Superbowl ที่ดีที่สุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาคือความสามารถของหนุ่มคนนี้ล้วนๆ ไม่เชื่อก็ลองเปิดคลิปดูเอาเองสิ


John Martin - Anywhere For You


John Martin - Anywhere For You

อย่าทำเป็นไม่รู้จัก John Martin ไหน เพราะ ณ จุดนี้ทุกคนต้องเคยฟังเพลงฮิตระเบิดของ Swedish House Mafia อย่าง Don't You Worry Child หรือ Save The World กันมาแล้วทุกคน จนกระทั่งวงนี้จะแตกตัวล้มตายไปแล้ว นายจอห์น มาร์ตินก็ยังคงตามพยาบาทอยู่โดยการไปร้องในเพลง Reload งานเดี่ยวของ Sebastian Ingrosso อีก นึกออกแล้วใช่ไหมจ๊ะ

ส่วนตัวเพลง Anywhere For You ชื่ออาจฟังเหมือนสโลแกนเครือข่ายโทรศัพท์แต่นี่คือผลงานเดี่ยวชิ้นแรกของนายคนนี้ ตัวเพลงก็ถอดแบบต้นตำรับ EDM มาแบบช้อนต่อช้อน ใครที่ตอนนี้ชีวิตกำลังขาดเพลงเต้นสนุกๆ ก็มีเก็บไว้ฟังสนุกก็ได้นะจ๊ะ

Kylie Minogue - Into The Blue


 Kylie Minogue - Into The Blue

Dawn Shadforth กลับมากำกับเอ็มวีให้น้าไข่แล้วอีกครั้ง ยังจำกันได้ไหมนายคนนี้้ที่เคยกำกับเอ็มวี Can't Get You Out of My Head ให้ระเบิดเปรี้ยงปร้างเมื่อครั้งกระโน้น คราวนี้สำหรับซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้ม Kiss Me Once ของน้าไข่ Kylie Minogue อย่าง Into The Blue ก็ไม่ปล่อยให้ตุ๊ดน้อยใหญ่ได้รอคอยกันนานจนตกกระแส วานนี้คุณน้าจัดให้หลานๆ หนึ่งชุดด้วยเอ็มวีตัวเต็มเข้ามาแย่งชิงพื้นที่ในหัวใจอีกครั้ง

คราวนี้ไคลี่ลดเครื่องหัวประดับขนนกและแสงไฟบนฟลอร์กลับมาจุดตำนานป็อปแดนซ์อีกครั้งด้วยลุ๊คคุณนายไฮโซสวมแจ็คเก็ตรูปปาก ไอเท็มชูโรงจาก Saint Laurent คอลเลคชั่นล่าสุด การกำกับศิลป์แบบยุโร๊ปยุโรป ช่วงขาวดำนี่ราวกับนั่งดูหนังฝรั่งเศสยุค 60s อย่างนั้นแหละ ฉากงานเต้นรำของชนชั้นสูงประดับประดาไปด้วยแสงไฟสีทอง ถนนลอนดอนในยามค่ำคืน ชายหญิงอยู่ด้วยกันในห้องส่วนตัว นี่มันช่วงแรกของหนัง Eyes Wide Shut นี่น่า!

ก่อนเอ็มวีจะจบก็ยังไม่ได้มีความหวือหวาอะไรเกิดขึ้น จนคุณน้าไข่วัยกลางคนเดินเมามายสะพายกระเป่า Saint Laurent ใบงามอยู่กลางถนน ก่อนที่จะโดนสิบล้อฟาดเข้าให้ก็มีชายหนุ่ม Clement Sibony รับบทเป็นคู่ชีวิตของหล่อนก็คว้าตัวมาไว้ในอ้อมอกอย่างเร็วไว้ เคมีสองคนนี้เข้ากันดีจนถึงขั้นที่เชื่อว่าถ้าคุณสามีตัวจริงของน้ามาเห็นคงนั่งไม่ติดเบาะเลยแหละจะบอกให้

แม้ Into The Blue จะไม่ได้โปรดักชั่นอลังการต่อตัวเท่าตึกระฟ้าเหมือน All The Lovers และแน่นอนว่าคงไม่ใช่ซิงเกิ้ลที่เป็นหมุดหมายสำคัญในการงานอาชีพของนางนี้ แต่ตัวเอ็มวีเองก็สามารถประคับประคองเนื้อเพลงไปในทางที่น่าสนใจมากขึ้น ได้ยินครั้งแรกแล้วนึกภาพเห็นแต่น้ำทะเลท้องฟ้าแสนน่าเบื่อ มีวีดีโอเข้ามาเสริมเรื่องราวกลายเป็นความรักของหนุ่มสาวคู่นี้ไปได้ บวกกับเนื้อหาเพลงความหมายสุดจรรโลงปลุกชาาาาร์จสัตว์โลกให้ลุกขึ้นมาแดนซ์กันในยามเช้าอีกครั้ง

About Me

My photo
my name is mish my favorite color is turquoise when i grow up I want to be an architect