Monday, February 4, 2013
Beyonce nails it in Halftime Show!!
แม้กระแสจะดังไม่เปรี้ยงปร้างไม่เท่าอีเจ๊แม่มาดอนน่าเมื่อปีก่อน แต่โชว์คั่นเวลา Superbowl ของสาวบีที่ถ่ายทอดสดให้คนดูกว่าร้อยล้านคนทั่วอเมริกาไปเมื่อเช้านี้นั้นถือว่ารักษาความเป๊ะตามมาตรฐานชะนีเบอร์หนึ่งของวงการได้อย่างไม่มีที่ติ คล้ายจะลบคำสบประมาทข้อหาลิปซิงค์เพลงชาติให้เป็นที่อับอายเมื่ออาทิตย์ก่อน ครั้งนี้คุณนายบีชัดเจน จัดเต็มร้องสดชนิดไม่มีแม้กระทั่งแบ็กกิ้งแทร็ค ทั้งร้องทั้งเต้นอย่างบ้าพลัง แถมยังยกก๊วนเพื่อนสาว Destiny's Child มาร่วมวงคืนสู่เหย้าตามสัญญาด้วย งานนี้คุณผู้กำกับ Hamish Hamilton แห่งเวที Victoria's Secret คนเดียวกับที่เคยกำกับโชว์ซูเปอร์โบว์ของเจ๊แม่เมื่อปีที่แล้วได้เนรมิตสนาม Superdome ให้เป็นเวทีรูปหน้าคนขนาดยักษ์พร้อมแสงสีเสียงครบมือ เห็นชื่อเฮียแกมาทีไรเตรียมตัวเตรียมใจกันแทบไม่ทัน ช่างเป็น 12 นาทีที่สั้นเพียงอึดใจ
คุณนายคาร์เตอร์ขนเอาเพลงฮิตตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมารวมเข้าไว้ โดยเปิดตัวด้วยสองสามประโยคจาก Love on Top บนแท่นไฮโดรลิก ก่อนจะนำเข้า Crazy In Love เพลงฮิตตลอดกาล แม้จะเป็นบล็อกกิ้งเดิมแต่ก็เฟียซขึ้นทั้งหน้าตาและท่าเต้น แถมให้เล็กๆ กับท่อนกีตาร์พ่นไฟของ Bibi Mcgill มือกีตาร์หัวหยอยประจำวงทัวร์ของเธอ ต่อด้วย End of Time หนักหน่วงด้วยเครื่องเป่าและเพอร์กัสชั่นควบคู่ไปกับท่าเต้นแสนเก๋ที่เคยสร้างความมันส์ในงาน Glastonbury มาแล้ว ตามด้วย Naughty Girl เข้าใจเลือกเพลงที่เข้ากับเพลงก่อนหน้าได้อย่างลงตัว คราวนี้อีเจ๊บีขอใช้ท่าไม้ตายวิชาแยกร่างในตำนาน ที่กลับมาคราวนี้แอบมีทริ๊กเอาคนจริงมาเนียนเข้ากับจอแอลซีดีด้านหลังทำให้ดูมีมิติมากขึ้น สร้างสรรค์อย่าบอกใคร แต่เสียอย่างเดียวอีเจ๊แล้วคนข้างหลังจออีกครึ่งสนามเค้าจะดูอะไรจ๊ะ ต่อไปอย่างไม่รีรอเมื่ออินโทร Bootylicious ดังขึ้นสองสาว Destiny's (other) Child ก็ถูกดีดขึ้นจากใต้เวที แม้มิเชลนางจะดูมีปัญหากับการแลนดิ้งเล็กน้อย แต่ทั้งสองก็ยังคงจิกหน้าสู้คนอย่างไม่หยุดยั้ง การรวมตัวกันของ Spice Girls เมื่อปีที่แล้วสร้างความตื่นเต้นให้แก่คนอังกฤษอย่างไร การกลับมาของ Destiny's Child ก็สร้างความตื้นตันใจต่ออเมริกันชนฉันนั้น โดยเฉพาะเพลงบังคับ Single Ladies ที่แอบรอชมสามคนเล่นเพลงนี้มานานแล้ว สำหรับเพลงสุดท้ายบีบอกลาสองสาวแล้วปิดฉากด้วย Halo แสงสีฟ้าสาดส่องไปทั่วสนามกับเพลงความหมายดีที่ชวนให้คนดูได้ไปพร้อมกัน
เนื่องจากการแสดงของบียอนเซ่ในแต่ละครั้งนั้นเราแทบจะไม่เคยเห็นอะไรที่ผิดพลาดเลย ทำให้เราไม่ค่อยใส่ใจลุ้นว่ามันจะรอดไม่รอดเท่าไหร่ คำว่าผิดหวังนั้นช่างห่างไกลเหลือเกิน เพราะฉะนั้นการพูดถึงโชว์ของบีจะต้องตัดมาตรฐานของมนุษย์มะนาปกติเขาออกไปก่อน เรื่องร้องเต้นไม่เคยเป็นปัญหา เพราะนางเก็บหมดทุกเม็ดไม่มีตกหล่น จะมีให้บ่นอยู่อย่างคือเรื่องภาพรวมนั้นยังดูไม่ฉูดฉาดเท่าไหร่นัก คล้ายจะเน้นความแข็งแรงจัดจนเกินไป จนดูลืมให้ความสำคัญกับความสวยงามเท่าที่ควร ทั้งฉากต่างๆ ที่เน้นสีดำ เสื้อผ้าที่ตัดจากแพทเทิร์นคล้ายๆกัน ทำให้แยกไม่ออกเท่าไหร่ว่าคนไหน เคลลี่ คนไหนมิเชล คนไหนแดนเซอร์ อีกทั้งหลายๆ อย่างที่เราเห็นก็เป็นสิ่งที่เราเคยเห็นมาแล้วจากเวทีอื่นๆ แต่อย่างไรก็ดีข้อเสียเหล่านี้ก็ไม่ได้ทำให้โชว์ไม่สนุกแต่อย่างไร เพราะความตื่นตาตื่นใจที่แท้จริงนั้นคือความสามารถของผู้หญิงคนนี้ต่างหาก
พูดถึงโชว์ Superbowl นับวันยิ่งจริงจังขึ้นทุกที นึกถึงสมัยก่อนอย่างตอน Prince เมื่อปี 2007 ก็ไม่ได้อะไรมากแต่มันส์สะใจไม่แพ้กัน สมัยนี้ต้องมีทั้งภาพ แสง สี เสียง เกินกว่าการแสดงขั้นเวลาฟุตบอลธรรมดาซะแล้ว ที่สำคัญการมีดีว่าขึ้นแสดงสองปีติดนั้นทำให้เราแอบหนักใจแทนปีต่อไปว่าจะเอาใครมาแสดงดี หรือนี่จะกลายเป็นธรรมเนียมใหม่ให้ดีว่านางใหญ่ๆ มาประชันกันซะแล้ว...
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
Blog Archive
About Me
- Harmish Muszid
- my name is mish my favorite color is turquoise when i grow up I want to be an architect
No comments:
Post a Comment