Monday, November 11, 2013

Fruity Review #14: Lady Gaga - ARTPOP

If video killed the radio star, did Gaga's "ARTPOP" killed Pop Art?

Lady Gaga
ARTPOP
7.5/10

Andy Warhol เคยตั้งชื่อสตูดิโอของตัวเองว่า The Factory โรงงานผลิตศิลปะและแหล่งซ่องสุมของศิลปินและเซเลปชื่อกระฉ่อนแห่งโลกยุคโพสโมเดิร์น ที่ให้กำเนิดวงดนตรีอย่าง The Velvet Underground ดารานางแบบอีกเพียบอย่าง Edie Sedgwick เป็นต้น ไฉนเลยจะไม่ให้พูดถึงกระป๋อง Campbell Soup อันลือเลื่องที่กลายมาเป็นผลงานที่ใช้จำกัดความคำว่า Pop Art ศิลปะแขนงที่จับเอาความอาร์ตและความแมสมาอยู่ในบรรทัดเดียวกัน มันแหวกแนวขนาดไหนก็ลองนึกดูซิว่า (ในสมัยนั้น) ถ้ามีใครเอาปลากระป๋องตราสามแม่ครัวมาแขวนจัดแสดงในแกลเลอรี่ แถมยังพิมพ์ออกมาได้ทีละเป็นพันๆแผ่น เราจะยังเรียกสิ่งนั้นว่าศิลปะอยู่หรือเปล่า?

หลายทศวรรษต่อมาจึงกำเนิด Lady Gaga ผู้ที่เคลมตัวเองไว้ในซิงเกิ้ล Applause ว่า "Art's in Pop, Culture, in me" ศิลปินหญิงที่มีคนพูดถึงมากที่สุดในโลก และครึ่งหนึ่งของโลกที่เอ่ยชื่อเธอมักจะพูดถึงในลักษณะสรรเสริญ ในขณะที่ครึ่งหนึ่งของคนที่ได้ยินชื่อเธอมักจะกลอกตาด้วยความหมั่นไส้ และคนเหล่านั้นจะยิ่งเบะปากเป็นทรงโค้งรัศมีโปรเจกไตล์เมือได้ยินว่าเธอตั้งชื่ออัลบั้มล่าสุดว่า ARTPOP

คำถามว่า Lady Gaga และ Andy Warhol มีความเหมือนต่างกันอย่างไร เป็นคำถามที่บุคคลประเภทที่สองจะตอบอย่างเหนื่อยหน่ายว่า Lady Gaga ยังไม่ควรไปเทียบชั้นกับใครทั้งสิ้น แต่ในความจริงแล้วทั้งสองมีใจความสำคัญเหมือนกันอยู่หนึ่งอย่างคือ ทั้งคู่ต่าง "จงใจ" วางตัวเองอยู่ในขั้วตรงข้ามกับความวิจิตรบรรจงและความลึกล้ำทั้งปวง และผลักดันให้ผลงานของตัวเองเข้าถึงผู้คนกระแสหลักให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ โดยไม่สนว่ามันจะถูกดูแคลนหรือถูกลดทอนคุณค่าไปอย่างไรบ้าง นั่นคือเหตุผลว่าทำไมกาก้าถึงมาได้ไกลขนาดนี้ และทำไมภาพพิมพ์รูปมาริลีน มอนโรยังมีประดับอยู่ตามร้านกาแฟใกล้บ้านคุณ

โอเค เราเข้าใจว่าการให้ Jeff Koons มาออกแบบหน้าปกอัลบั้มให้ ร่วมงานกับ Marina Abramovic และ Inez & Vinoodh รวมถึงดีไซน์เนอร์จากห้องเสื้ออีกครึ่งโลกที่ลงมือตัดชุดให้นางใส่ในการปรากฎตัวแต่ละครั้ง พร้อมทั้งยังเอ่ยถึง Botticelli อยู่เป็นระยะๆ คือส่วนที่เราควรจะเรียกว่า ART แต่สิ่งสำคัญกว่าอื่นใดคือภาคดนตรี POP ในฐานะสินค้าที่ผ่านการประโคม ลดแลกแจกแถมกันมาครึ่งปีนี่ต่างหาก ที่จะชี้เป็นชี้ตายให้กับอัลบั้มที่มีคนรอคอยมากที่สุดของปีนี้ แม้ใครๆ ก็รู้ว่าเพลงของเธอไม่เคยประหลาดล้ำเหมือนลุ๊คการแต่งตัวเลย

สิ่งที่น่าสนใจสำหรับภาคโปรดิวเซอร์ของอัลบั้มคือ นอกจากที่ก้าจะยังคงเส้นคงว่ากับ DJ White Shadow ที่เคยร่วมงานกันใน Born This Way แล้ว เธอยังหันไปใช้บริการโปรดิวเซอร์หนุ่มๆ วัยแรกแย้ม เช่น Zedd ดีเจที่เคยฝากผลงานอย่าง Clarity ที่ดังระเบิดไปเมื่อปีที่แล้ว และ Madeon ดีเจหนุ่มน้อยวัย 19 ปี มาร่วมลงแรงในหลายเพลงของอัลบั้มนี้ด้วย โดยเนื้อเพลงทั้งหมดในอัลบั้มผ่านปลากปากกาของสาวก้าเจ้าตัวล้วนๆ ทั้งหมดนี่รวมกัน บวกกับ reference จากศิลปินยุคก่อนหน้าอีกนิดหน่อย จับยัดลงไปในเครื่องปั่นโรยกากเพรชสีชมพู ออกมาเป็น 15 เพลงจากอัลบั้มป็อปแดนซ์อลังการดาวล้านดวง

เพลงในอัลบั้มส่วนใหญ่มักจะไม่พูดถึงประเด็นความสัมพันธ์เหมือนศิลปินหญิงทั่วไป ก้ามักจะแสดงความสนใจส่วนตัวเรื่องแฟชั่น แฟนเพลง การเดินทาง หรือไม่ก็หลุดไปอวกาศไม่ก็เรื่องเซ็กซ์โจ่งครึมไปอย่างที่เห็น ตัวอย่างเช่น Sexxx Dreams ที่ถึงแม้จะไม่ได้เซ็กซี่เท่าที่ชื่อเพลงพยายามบ่งชี้ แต่ก็โดดเด้งด้วยเบสไลน์ตอนท้ายเพลงที่ทำให้นึกถึงงานเก่าของ Prince ได้ไม่ยาก หรือ Venus ที่ไม่ได้ฟังดูอวกาศหลุดโลกมากมาย แต่เป็นเพลงป็อปลงตัวในจังหวะกลางๆ ฟังง่าย เหมาะสมสำหรับการตัดเป็นซิงเกิ้ลอย่างยิ่ง //สำหรับผู้ที่เคยได้ยิน Aura เวอร์ชั่นก่อนสำเร็จมาแล้ว ต้องขอบอกว่า Aura เวอร์ชั่นอัลบั้มนั่นคือความผิดหวัง เพราะนางกลัว Zedd เด็ดกว่าหรือไรก็ไม่ทราบจึงตัดท่อนเทคโนตอนท้ายออกเกือบหมด แถมยังอัดเสียงใหม่ตัดเสียงป่วงๆ ตอนแรกออกเกลี้ยง แนะนำให้หาเวอร์ชั่นเก่ามาฟังจะดีกว่า ถ้าอยากได้อารมณ์บ้าๆ บวมๆ เหมือนได้ยัย Courtney Love ตอนเมายามาร้องให้ฟังพร้อม Spanish Guitar และซาวน์แบบ EDM แดนซ์กระจายสไตล์ Zedd


"I'm the rich bitch I'm the upper class!"
แรดที่สุดต้องยกให้ Donatella ที่แต่งไว้อวยเพื่อนสาวต่างวัยประจำห้องเสื้อ Versace สาธยายชีวิตสุด fabulous ชะนีไฮโซในท่อนฮุคติดหูเกินคำบรรยาย หลับตาเห็นตุ๊ดจำนวนมากกรีดกรายบนแคทวอล์คด้วยท่าขาไขว้บนรองเท้าส้นเข็มสูง 8 นิ้วของ Thierry Mugler // Do What You Want อาจฟังดูเหมือนเพลงที่อีหมีเขี่ยออกจากอัลบั้ม Butterfly ถ้าไม่ได้เสียงนุ่มๆ ของ R Kelly เข้ามาช่วยเพลงนี้อาจเสียศูนย์ไปไม่น้อย ท่อนที่ร้องว่า "If you let me go, I would fall apart" ทำให้นึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างกาก้าและนักวิจารณ์ประมาณว่าชั้นยอมให้เธอด่า (do what you want) ดีกว่าให้จะให้เธอจะทอดทิ้งชั้นไป // ส่วน Manicure ยังคงหนีไม่พ้นเรื่องผู้ชายและความงาม จังหวะตบหน้าตักเชียร์ลีดเดอร์แบบนี้ทำให้นึกถึง Hollaback Girl เวอร์ชั่นมีเท่าไหร่ใส่ไม่ยั้ง และ Swine เพลงเนื้อหาแรงๆ ที่บิ้วให้ตายก็ไม่ขึ้นเพราะภาคดนตรีเหมือนยังทำไม่เสร็จ

แม้ Gypsy จะตวงตามสูตร The Edge of Glory มาแบบช้อนต่อช้อน แต่ก็มีดีที่เนื้อหาที่ถอดออกมาจากชีวิตจริงได้อย่างกินใจ ว่าด้วยคนที่ชีวิตต้องเดินทางบ่อยเสียจนเหลือแต่ความอ้างว้าง เป็นหนึ่งในเทคนิคที่กาก้าใช้เรียกศรัทธาในฐานะนักดนตรีกลับมาได้สำเร็จทุกครั้งด้วยการนำเพลงป็อปแดนซ์มาถอดรูปเหลือเพียงเสียงเปล่าๆ กับเปียโน เพื่อโชว์ศักยภาพการร้องเพลง ฝีมือการแต่งเพลงและการเล่นเปียโนที่อวดโลกได้อย่างไม่อายใคร

ถึงแม้ว่า ARTPOP จะติดป้ายให้ตัวเองว่ามันคือ pop trash แต่ก็ไม่ได้ฟังง่ายย่อยง่ายเหมือน The Fame ในอัลบั้มแรก เพราะ ARTPOP มีความจงใจบางอย่างที่เห็นได้ชัดเจนว่ากาก้าต้องการผลักดันอัลบั้มไปในทิศทางที่ไม่เคยมีคนไปมาก่อน นั่นคือการดันให้เพลงมันขยะเสียจนทะลุออกจากกฎเกณฑ์กลายเป็นความล้ำในรูปแบบหนึ่งที่เธอน่าจะเรียกมันว่า ART ได้ด้วยซ้ำ ในแบบเดียวกับที Andy Warhol ทำกับผลงานของเขา ก็เพื่อที่จะแสดงความย้อนแย้งของรสนิยมและทำลายกฎเกณฑ์มาตรวัดเก่าๆ ที่ใช้ชี้ว่าสิ่งใดคืออาร์ต สิ่งใดไม่ใช่อาร์ต เพราะฉะนั้นเพื่อตอบคำถามว่า ARTPOP kills Pop Art หรือไม่ ก็ต้องตอบได้เลยว่า ไม่ เพราะมันคือรูปแบบหนึ่งของ pop art ที่คงไม่ต่างกับเป็ดยางสีเหลืองขนาดยักษ์ของ Florentijn Hofman ที่ลอยอยู่ในอ่าวฮ่องกงเมื่อต้นปี มันสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคนดูที่ผ่านไปผ่านมาในลักษณะอาจจะดูฉาบฉวย แต่ถ้าอย่างน้อยมันมีศักยภาพพอที่ทำให้เรารู้สึกถึงมันได้ เราก็คงไม่กล้าบอกว่าสิ่งนั้นไม่ใช่ศิลปะหรอกจริงไหม

และด้วยคุณภาพของอัลบั้มแล้วเราอาจพูดไม่ได้เต็มปากว่าอีกสิบปีข้างหน้า Rolling Stones จะจัดให้เป็น 100 อัลบั้มแห่งทศวรรษ แต่สำหรับตัวกาก้าแล้วนี่คือผลงานที่ใช้เป็นหลักฐานว่าเธอไม่ได้อยู่ในขาลง แถมยังพุ่งทะยานขึ้นไปอีกด้วยซ้ำ สำหรับคนฟังอย่างเรา นี่คืออัลบั้มที่ฟังสนุกดีไม่น้อย เป็นผลงานขยะชิ้นโบว์แดงที่สามารถดึงผู้ชมมาเต็มสเตเดียมได้ในเวลาชั่วข้ามคืน

No comments:

Post a Comment

About Me

My photo
my name is mish my favorite color is turquoise when i grow up I want to be an architect