วันนี้วันดีปีใหม่ แม้จะเริ่มต้นมาได้สองวันแล้ว หลังจากหยุดยาวจนลืมชีวิตกันมาซักพัก ไปปาร์ตี้หัวราน้ำกันพอหอมปากหอมคอ หลายคนก็กลับมาทำงาน กลับมาเรียนกันตามปกติ สำหรับปีใหม่นี้ เราเสนอหน้ากลับมาบล็อกอีกครั้ง หลังจากไม่บล็อกมานานหลายเดือน พลาดอัลบั้มดีๆ ไปมากมายที่แซ่บจัดจนอยากจะมาดิ้นเร่าๆ บอกต่อให้ทุกคนฟังในนี้ให้ได้ แต่ก็ด้วยมรสุมชีวิตและโรคเลื่อนที่รุมเร้าอยู่นานทำให้ไม่สามารถมานั่งพร่ำให้ฟัง
ว่าแต่ปี 2012 ที่ผ่านมาคุณฟังอะไรกันบ้าง? ห้ามบอกว่า Gangnam Style เพราะจะโกรธมาก (แม้ว่าเจ้าของบล็อกจะมีช่วงฮึดซ้อมท่าเต้นอยู่พักหนึ่งก็ตาม) เชื่อว่าปีที่แล้วเกิดอะไรขึ้นมากมายในโลกดนตรี ตั้งแต่งานซูเปอร์โบว์ของหม่อมแม่มาดอนน่า ไปจนถึงพิธีเปิดและปิดสุดแสนประทับใจของโอลิมปิก 2012 แต่จากการสรุปยอดประมวลภาพรายปีที่ผ่านมา พบว่าปีที่แล้วคือปีแห่งเพลงเต้น เต้นแร้งกันเต้นกากันทั้งเมือง ถ้าจะพูดถึงเพลงแดนซ์ก็ต้องยกให้การกลับมาของเพลงแนว House, Trance และ Drum & Bass ที่ฮิตกันเหลือเกินในวงการเพลงป็อปปีที่แล้ว รวมไปถึงแนวดนตรีสุดเนิร์ดอย่าง Dubstep ก็มักใช้เป็นเครื่องปรุงสูตรสำเร็จเหยาะนิดเหยาะหน่อยก็ทำให้เพลงป็อปบ้านๆ ธรรมดานั้นฟังดูทันสมัยขึ้นมาทันตาเห็น ...
อุตส่าห์จั่วหัวมาตั้งยาวว่าเพลงเต้นอย่างนั้นเพลงเต้นอย่างนี้ ว่าแต่ กระทรวงอะไร? การตอบคำถามนี้อาจเป็นการเอามะพร้าวห้าวไปขายสวนอย่างร้ายกาจสำหรับคนที่ฟังเพลงแดนซ์อยู่แล้ว คงเหมือนกับการอธิบายชาวฮอกวอตส์ว่ากระทรวงเวทมนตร์คืออะไร แต่ก็นั่นแหละ เพื่อให้กระจ่าง กระทรวงที่ว่านี่ก็คือ Ministry of Sound อันมีชื่อเล่นที่เจ้าของบล็อกใช้เรียกส่วนตัวว่า "กระทรวงเสียง" ซึ่งกระทรวงนี้มีที่ทำการใหญ่อยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เปิดทำการในยามวิกาล โดยเจ้าหน้าที่ทั้งหลายในกระทรวงนี้ต่างมีเสียงบีทส์ล้นปริ่มอยู่เต็มหัวใจ พันธกิจหลักของกระทรวงนี้คือการทำให้ชีวิตของประชาชนน่าเบื่อน้อยลงนิดนึง ถึงแม้ว่าวันนี้เจ้าของบล็อกจะยังไม่มีปัญญาเสนอหน้าไปเหยียบกระทรวงด้วยตัวเองแต่ตั้งมั่นไว้ในใจว่าวันหนึ่งจะเดินทางไปแสวงบุญในกระทรวงนี้ให้ได้เพียงครั้ง เช่นเดียวกับเทศกาล Woodstock ของชาวร็อค หรือ South By South West (SXSW) ของชาวอินดี้ แต่นั่นมิได้หมายความว่ากระทรวงจะเมินคุณ เพราะเราในเว็บของกระทรวงยังมีการถ่ายทอดการแสดงสดตรงจากคลับ หรือวิทยุจากคลื่นของที่นี่ได้ นอกจากนี้เพลย์ลิสต์ใน Youtube ของที่นี่ ยังเป็นแหล่งอัพเดทเพลงเต้นรำใหม่ๆ จากดีเจมากมาย ที่แยกหมวดหมู่ไว้เป็นอย่างดี แต่ที่สำคัญที่สุดที่เราจะพูดถึงในวันนี้ คือหนึ่งในธรรมเนียมของ Ministry of Sound นั่นคือ mixtape รายปีที่ทุกคนรอคอย มันคือการรวมและคัดสรรเอาสุดยอดเพลงเต้นรำอันทรงเกียรติกว่าห้าสิบเพลงจากทั่วยุโรปและอเมริกามารวมไว้ ทั้งเวอร์ชั่นเรดิโอ และเวอร์ชั่นรีมิกซ์ พร้อมมิกซ์เชื่อมระหว่างเพลงไว้อย่างแนบเนียน หากเราเอารวมฮิตของแต่ละปีมาฟังติดต่อกัน (ถ้าว่างขนาดนั้น) เราก็จะได้เห็นถึงแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงของวงการเพลงแดนซ์อย่างชัดเจนว่าปีนี้ดีเจคนไหนดัง คนไหนดับ แนวไหนอิน แนวไหนเอาท์ ฉะนี้ถือเป็นกฎเหล็กสำหรับขาแด๊นซ์ที่ต้องมีไว้ในครอบครองทุกปีไป
สำหรับปีนี้ที่มาแรงก็มีมากมายแต่ที่ครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในซีดีสามแผ่นนั้นจะตกอยู่กับเพลงแบบ Progressive House สไตล์ Axwell, Alesso หรือ Sebastian Ingrosso เด็กเก่า Swedish House Mafia และงานจากดีเจแดนไวกิ้งสุดฮ็อตที่สำหรับปีนี้ไม่รู้จักไม่ได้อย่างนาย ทิม เบิร์ก หรือ Avicii นั่นเองถึงแม้ว่าเพลงโปรดของเจ้าของบล็อกย่าง Silhouette จะถูกมิกซ์ซะเสียชาติเกิดก็ตาม
อีกนายหนึ่งที่แม้จะไม่ได้เกี่ยวกับ Ministry of Sound เท่าไหร่แต่ก็น่าจับตามองอย่างมากในปีนี้คือ Matthew Koma นักร้องหนุ่มจากนิวยอร์คที่มาโผล่มาให้เห็นอยู่หลายแทร็คเช่น Calling (Lose My Mind), Years และ Spectrum โดยหนุ่มเจ้าของเสียงเอกลักษณ์คนนี้นั้นเดิมทีเป็นนักแต่งเพลงที่ชีวิตกำลังไปได้สวยเพราะเริ่มต้นปี 2012 ด้วยการทัวร์คอนเสิร์ตเป็นวงเปิดให้กับ LMFAO แต่งเพลงให้ Bruce Springsteen จนจับผลัดจับผลูมาได้ร่วมงานกับสามหนุ่ม Swedish House Mafia ออกมาเป็น Calling จนเลยเถิดออก electro/house สุดแสนจะเก๋ไก๋อย่าง Spectrum ที่ร้องให้ดีเจชาวเยอรมันอย่าง Zedd ฟังดูแล้วนึกถึงงานเก่าขุดกรุของ PNAU ในเพลง Embrace เมื่อปี 2009 อย่างบอกไม่ถูก ปี 2012 ถือเป็นปีแจ้งเกิดสำหรับดาวรุ่งดวงนี้ที่ทำผลงานจนอิ่มหนำกันเลยทีเดียว รอดูผลงานเดี่ยวที่กำลังจะออกอีกไม่่กี่เดือนนี้กัน
แต่จากประสบการณ์การฟังมิกซ์เทปของกระทรวงมาตั้งแต่ปี 2009 ยังมิอาจกล่าวได้ว่าปีนี้เป็นปีที่ดีที่สุด เพราะนอกจากจะมีหลายเพลงที่ใหม่สดเพราะพริ้ง เพลงฮิตข้ามปี หรือบางเพลงที่ต้องรีบแจ้นไปหาออริจินอลมาฟัง ก็ยังมีบางเพลงที่เลวชาติ สมควรตายอย่าง Can't Kill the Party ของ Tom Piper, Mickey Slim & Majestic ที่พยายามสร้างเพลงชาติปาร์ตี้อย่างเอิกเกริกจนดูเสร่อเหมือนหลุดมาจากปี 2001 หรือบางเพลงที่เป็นเรื่องของ taste จริงๆ อย่าง Knife Party ที่ cult จัด ประเภทว่าถ้าชอบก็รักถ้าเกลียดคือเผาพริกสาปกันเลยทีเดียว หลายคนชอบหลายคนผิดหวังแต่ถึงอย่างไร มิกซ์เทปนี้ก็ยังเป็นอัลบั้มทรงคุณค่าอยู่ในฐานะผลงานที่รวบรวมเพลงดังๆ และเพลงดีๆใหม่ๆ ไว้ให้คนฟังโลกที่สามอย่างเราได้ตื่นตาตื่นใจ แต่ยังคงไม่มีอะไรเทียบมหากาพย์รีมิกซ์จากกระทรวงเมื่อปี 2009 ที่เคยเมื่อหลายปีก่อน
ปิดท้ายถอนสายบัวสวยๆด้วย Superlove งานจาก Avicii feat. ลุง Lenny Kravitz เพลงเต็มไม่มีตัดจ้า
s
No comments:
Post a Comment