Sunday, October 20, 2013


M.I.A - Y.A.L.A

คนอื่นเขาโยโล่กัน นี่มา ยาล่า มึนกันไปตามๆ กันว่าแปลว่าอะไร แต่ถ้าใครฟังอัลบั้มก่อนๆ คงเข้าใจความหลุดรั่วของ M.I.A ได้อย่างดี ไม่ว่าจะทั้งซาวน์แบบ Glitch ราวกับเครื่องปั้มแผ่นเกิดเสียชีวิตระหว่างปฎิบัติหน้าที่ ฟังได้บ้างไม่ได้บ้าง หรืออาร์ตเวิร์คสไตล์อย่างที่เห็นนี้ ถ้าชอบก็รักเลยใครไม่ชอบก็อย่าขว้างปาสิ่งของใส่นางนะ ช่วงนี้ได้ยินข่าวเรื่องอัลบั้ม Matangi หลุดมาบ้างให้พอชื้นใจ เพราะรายนี้ส่งมาซิงเกิ้ลโดดมาจะได้้สองปีแล้ว เรียกว่าติดตามผลงานกันแบบกระปิบกระปรอยให้คนคอยลุุ้นไป ตั้งแต่ Bad Girls ที่โด่งดังจนได้เอ็มวีแห่งปีของแแกรมมี่ไป Bring The Noize และ Come Walk With Me ปีนี้ ที่ฟังแล้วก็เข้าใจว่านางคงเบื่อความซ้ำซากของวงการดนตรีนี้เหลือทน

ส่วนเรื่องแฟชั่นก็โดดเด่นกว่าใครๆ แม้ว่าบรรดาแร็ปเปอร์หญิงทั้งหลายจะบรรจงแต่งองค์ทรงเครื่องมาเรียกคะแนนกันเต็มที่ แต่มองปราดเดียวก็รู้ว่าสำหรับ M.I.A มันมีของบางอย่างที่เป็นตัวของตัวเองมากๆ ซ่อนอยู่ ด้วยลุ๊คแบบลายกราฟิกฉูดฉาดแบบนี้ จึงไปเตะตาแบรนด์ญี่ปุ่นสุดล้ำอย่าง Kenzo จนได้ทำ mixtape มาประกอบรันเวย์ประจำ Fall/Winter 2013/2014 ไปเมื่อต้นกลางปีนี้


ล่าสุดก็ได้เป็นกระบอกเสียงคนสำคัญให้กับเวอร์ซาเช่อีกคนแล้ว

คิดแล้วก็ช่างสมน้ำสมเนื้อกันดี เพราะต้นยุค 90s ซ้อ Donatella ก็หน้าดำคร่ำเครียดอยู่ในสตูดิโอขุดคุ้ยหาไอเดียใหม่ๆ มาดันแบรนด์เวอร์ซาเช่ที่กำลังจะเจ๊งของพี่ชาย ออกมาได้เป็นลายกราฟฟิกซิกเนเจอร์ของเวอร์ซาเช่ยุค 90s กลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องนึกถึงเมื่อพูดถึงวงการแฟชั่นในทศวรรษนั้น

ในขณะเดียวกัน ณ ตลาดพาหุรัดแห่งอีสลอนดอน เด็กหญิงมายา อรุณพระเกษม (Maya Arulpragasm) ก็เดินเตร็ดเตร่กับโซนี่วอล์คแมนที่เปิดเสียงสุดด้วยอัลบั้มแร็พกรอกหูอยู่ เดินขยับปากร้องตามพลางเลือกดูเสื้อผ้า Versace ปลอมตามแผงที่เกลื่อนอยุ่ นางคงหยิบขึ้นมาดูด้วยสนใจ แล้ววางลงเมื่อถูกสิ่งอื่นล่อตาล่อใจไปอีก

20 ปีต่อมา ใครจะไปรู้ว่านางสาวมายา อรุณพระเกษมนี้กลายมาเป็นศิลปินที่ใช้ bootlegging หรือการปลอมแปลงสินค้ามาเป็นแรงบันดาลใจใหญ่ในการผลิตผลงาน แถมยังเป็นผลงานอัลบั้มที่ส่งผลกระทบต่อการเมืองและความคิดอีกด้วย จนเชื่อหรือไม่ว่า ไม่นานมานี้ เวอร์ซาเช่ หันมาสนใจทำคอลเลคชั่นใหม่ที่ชื่อว่า Versus ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหนุ่มสาว ที่ใส่เสื้อผ้าเวอร์ซาเช่และลายกราฟฟิกปลอมเหล่านั้นตามท้องถนน โดยไม่ลืมที่จะให้ M.I.A มาเป็นต้นแรงคนสำคัญ นี่แหละหนา โลกศิลปะ และความคิดสร้างสรรค์ที่เดินหน้าต่อไป เพราะคนเราก็ข้ามพรมแดนกันไปมาแบบนี้ มันถึงได้ไม่มีวันสิ้นสุดยังไงล่ะ 


No comments:

Post a Comment

About Me

My photo
my name is mish my favorite color is turquoise when i grow up I want to be an architect