Thursday, April 19, 2012

Fruity Focus: หนัง Flashdance และ "เพลงนั้น" ของเจโล


ที่ว่า "เพลงนั้น" ก็เพราะว่าหลังจากปล่อยซิงเกิ้ลนี้ออกมาในปี 2003 ก็ลอยหายเข้ากลีบเมฆไปอย่างรวดเร็วไม่ปรากฏหลักฐานการมีตัวตนในชาร์ทตำแหน่งบนๆกับเขาเลย เพลงนั้นก็คือ I'm Glad จากอัลบั้ม This is me...Then ของเจโล เมื่อเกือบสิบปีก่อนนู้น แต่จะได้ตำแหน่งเท่าไหร่ไม่ใช่ประเด็นครับ เรื่องของเรื่องก็อย่างภาพที่เห็นข้างบนครับ มันคือไอเดียบรรเจิดของผู้กำกับสุดเปรี้ยว David Lachapelle ที่เล่าเรื่องราวของเพลงด้วยการขุดเอาหนังเต้นดราม่าสุดคลาสสิกจากยุค 80s อย่าง Flashdance ขึ้นมาปัดฝุ่นใหม่ จับเจโล ยีผมฟูฟ่อง ใส่เครื่องทรงนักเต้นแปลงโฉมให้เป็น Jennifer Beals ในยุคนั้นออกมาเหมือนกันอย่างกับแกะ แถมทั้งฉากทั้งแสง ท่าเต้นที่ถอดแบบออกมาอย่างไม่มีผิดเพี้ยน



สำหรับคนที่เคยดู Flashdance จะรู้ว่ามันคือหนังเต้น รักโรแมนติกสู้เพื่อฝัน ของสาวนางหนึ่งชื่อว่า Alexandra Owens ที่ต้องใช้ชีวิตอย่างลำบากยากเข็ญเพื่อที่จะได้เป็นนัก Jazz Dance กับเขาบ้าง ในขณะที่เช้าก็ต้องไปเป็นกรรมกรก่อสร้าง ตกเย็นก็ต้องเต้นกินรำกินอีก แต่ทั้งนี้ก็เพราะเธอมีแฟนหนุ่มรูปหล่อคอยให้กำลังใจอยู่เคียงข้างเสมอ ... เห็นเป็นหนังพล็อตเน่ายุงหึ่งแบบนี้แต่ขอบอกเลยว่าหนังเรื่องนี้ถูกจัดว่าเป็นตำนานหนังเต้นสุดคลาสสิกเลยนะครับ เพราะสมัยนี้มันได้กลายเป็นต้นแบบพล็อตให้กับหนัง Step Up ที่เราดูๆกันอยู่นี่แหละ แถมมันยังมาพร้อมกับเพลงประกอบอย่าง What A Feeling ที่ฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง ไม่เชื่อลองไปถามผู้ใหญ่(ที่มีรสนิยมเก๋ไก๋)ใกล้ตัวดูซิครับ รับรองรู้จักทั้งนั้น



ต่อมาเกือบยี่สิบปีให้หลัง David Lachapelle ก็นำหนังเรื่องนี้กลับมารีเมคใหม่เป็นเอ็มวี I'm Glad โดยธีม Old-School แบบนี้ก็หวานหมูเฮียแกอยู่แล้ว และเลือกไม่ผิดเลยที่เป็นเจโล เพราะเธอเองก็มีดีกรีเคยเป็นครูสอนเต้น เป็นนักออกแบบท่าเต้นมาก่อน แถมยังมีประวัติแร้นแค้นเติบโตมาจากย่าน Bronx ซึ่งเป็นย่านคนดำในนิวยอร์คอีกต่างหาก งานนี้เรียกได้ว่านอกจากจะเล่าเรื่องในหนังของ Jennifer Beals แล้วยังมีประสบการณ์ชีวิตของอีกเจนนิเฟอร์นึงซ้อนทับอยู่ด้วย -- ตัวเอ็มวีก็ทำการรวบเอาเนื้อหาและฉากเด่นๆของเรื่องมารวบยอดให้เหลือสั้นๆแค่สี่นาทีครึ่งโดยมีการปรับเปลี่ยนท่าเต้นในฉากสุดท้ายจากนักเต้นสาวหน้าหวานให้เซ็กซี่ขึ้นให้สมกับสาวสะโพกดินระเบิดมากขึ้นนิดหน่อย (โดยเฉพาะท่ากระโดดควงสว่านลงมาจากโต๊ะนั้นมันช่าง!) ส่วนองค์ประกอบอย่างอื่นนั้นแทบจะแยกกันไม่ออกเลยทีเดียว

ถามว่าอ้าวแล้วถอดแบบมาซะเหมือนเปี๊ยบแบบนี้ไม่โดนฟ้องเหรอ โดนซิครับ Paramount Picture ก็กระแอมมาว่า ถ้าเกิดน้องจะลอกของพี่มาซะเหมือนขนาดนี้น้องจ่ายตังค์ค่าลิขสิทธิ์มาหน่อยดีไหม? ทำไงได้ก็ต้องเสียเงินซิครับ แต่ก็ไม่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลอะไร ต่อมาก็โดนซ้ำซ้อนรอบสองอีกเมื่อ Maureen Marder ต้นเรื่องของหนัง Flashdance ก็ออกมาฟ้องว่าป้าให้ลิขสิทธิ์เรื่องราวของป้าไปทำหนังเท่านั้น ส่วนเอ็มวีนี้ถือว่าละเมิด! แต่ก็เคราะห์ดีที่ศาลก็ทำการไกล่เกลี้ยเรื่องนี้ไว้ได้

I'm Glad เป็นเพลงป็อปอาร์แอนด์บีที่ที่ไม่ได้ขี้ริ้วขึ้เหร่อะไรเลย เพียงแต่ว่าในยุคนั้นเพลงแบบนี้ถือว่ามีเยอะล้นตลาดไปหน่อยจึงไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่ที่ผมนับถือว่าน่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง คือความเนี้ยบในการทำงานของเขาที่อุตส่าห์สรรหาทั้งฉาก เสื้อผ้า สถานที่ แต่งหน้า แม้กระทั่งแสงให้เหมือนเปี๊ยบไม่มีที่ตินั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถ้าใครเห็นถึงความพิถีพิถันตรงนี้ก็คงไม่ยากที่จะเห็นถึงความน่าจดจำของซิงเกิ้ลที่ถูกลืมนี้ได้

ใครที่ยังมีซีดี This is me... Then ก็ลองเอาเพลงนี้มาเปิดฟังดูเล่นๆนะครับ

No comments:

Post a Comment

About Me

My photo
my name is mish my favorite color is turquoise when i grow up I want to be an architect