Friday, September 28, 2012

Die Young & Diamonds



หลังจากที่เคยปรามาสไว้ครั้งก่อนเกี่ยวกับงานใหม่ของ Kesha ว่าจะไปได้ซักกี่น้ำ ได้ข่าวว่าเธอไปล่องทะเลเดินทางรอบโลกหาแรงบันดาลใจกันมายกใหญ่ แถมได้ร่วมงานกับศิลปินร็อคแถวหน้าอย่าง The Flaming Lips ด้วย ตอนนี้ถึงเวลาได้พิสูจน์ตนเองให้โลกได้รู้ซักที กับ Die Young ซิงเกิ้ลนำตัวใหม่ล่าสุดจากอัลบั้ม Warrior ที่เตรียมตัวพร้อมวางแผงพฤศจิกายนนี้

เปิดขึ้นมาเสียงแรกที่ได้ยินคือ Smells Like Teen Spirit หรืออะไรบางอย่างที่คับคล้ายคับคลาไม่ชัวร์ว่าตั้งใจรึเปล่า เพราะถ้าตั้งใจจะถือว่าเป็นการหมิ่นประมาท Nirvana อย่างร้ายกาจ เพราะสิ่งที่พ่วงกับเพลงนี้คือเสียงแพะของยัยเคชช่า ที่ไม่ได้พัฒนาก้าวหน้าไปจาก Tick Tock ซักเท่าไหร่ ทำหน้ามึนฟังไป ท่อนฮุคก็ฟังติดหูดีไม่หยอก แต่ติดเนื้อร้องสุดซ้ำซากเกี่ยวกับการใช้ชีวิตให้สุดขีด เป็นอะไรกันวัยรุ่นสมัยนี้อยากจะรีบลาโลกไปไหน เข้าใจว่าเธออยากจะเป็นตัวแทน Wild Child ประเภทชั้นไม่สนใจโลก ชั้นสุขนิยมขั้นสุด แต่พลาดท่าเธอออกเพลงนี้ช้ากว่า One Direction ไปหน่อยนึงนะ

...เอ๊ะ บ่นไปบ่นมาทำไมฮำเพลงนี้ไม่หยุดซะงั้นล่ะ ?! 



เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเริ่มรู้สึกว่ารีฮานน่าควรจะพักบ้าง อะไรบ้าง เธอจะปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ จากอัลบั้มใหม่ให้ฟังทันที และแทบจะเป็นช่วงเดียวกันของปีเสมอ และนี่คืออีกหนึ่งความพยายามของรีฮานน่าที่สรรหาก้าวต่อไปให้ตนเอง โดยการผละจากเพลงเต้นไม่ลืมหูลืมตาไปให้ความสำคัญกับความหมายลึกซึ้งจับใจ โดยยกหน้าที่ให้นักร้องนักแต่งเพลงเนื้อหอมของวงการในขณะนี้อย่าง Sia Furler มาแต่งทั้งเนื้อร้องทั้งทำนองให้ ผลที่ออกมาคือ จอดสนิทครับ... ที่ว่าไปไม่รอดนี่คือเธอถูกรัศมีสาวเซียกลบอย่างเป็นทางการ เพราะคนฟังแทบฟังไม่ออกว่านี่คือเสียงรีฮานน่า ทั้งดนตรีทั้งเทคนิกการร้องเหมือนหลุดมาจากอัลบั้ม We Are Born ของเซียแท้ๆ เพลงออกมาเป็น mid-tempo เนิบนาบ กับความหมายเชิงบวกเรียกกำลังใจ ซึ่งเป็นสิ่งใหม่ที่ห่านยังไม่เคยทำเป็นซิงเกิ้ลมาก่อน ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดี หากไม่ติดที่ว่าเธอเป็นนักร้องที่มีเอกลักษณ์ชัดเจนอยู่แล้วโดยที่ไม่ต้องพยายามไปเป็นเหมือนคนอื่น

งานนี้จะหัวจะก้อยต้องรอดูอัลบั้มเต็มกัน ว่าจะมีหวังน้ำบ่อหน้ากับซิงเกิ้ลต่อไป หรือเจอกันใหม่กันยาปีหน้านะจ๊ะ เซีย เอ๊ย ห่าน!



บอกตามตรงว่าไม่มีอะไรจะพูดมากเกี่ยวกับซิงเกิ้ลนี้ของ No Doubt นอกจากความสำเร็จในการสร้างความร่วมสมัยจากการร่วมงานกับ Major Lazer เข้ามาผนวกกับสไตล์สกาป็อปแบบดั้งเดิม และเสียงร้องของเกวน ที่เป็นลายเซ็นสำคัญของวง -- ซึ่งนั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือฟัง No Doubt มาตั้งแต่อายุ 11 ตอนนี้ผ่านมาสิบกกว่าปี เหตุใดเจ๊เกวน สเตฟานี่ ถึงดูเด็กลง ??? ผู้หญิงคนนี้กินอะไรเป็นอาหารถึงได้สวยเอาสวยเอา แถมยังดูสมวัยไม่ฝืนธรรมชาติอีกต่างหาก เป็นเคล็ดลับอะไรของสไตลิสก็มิทราบ รู้แต่ว่ามันคือเสน่ห์เฉพาะตัวบางอย่าง ที่มีอิทธิพลทำให้ เอ็มวีธรรมด๊าธรรมดา ที่ไม่มีอะไรมากกว่าปล่อยสมาชิกวงมาโดดเป็นลิงเป็นค่างหน้ากล้อง ออกมาเลิศเลอเหมาะแก่การ วนดูซ้ำหลายๆ ครั้งแบบไร้สติยั้งคิดได้เช่นนี้ -- รอดูลุคผมบลอนด์ คิ้วโล้น แคทอายแบบนี้ในคลิปสอนแต่งหน้าต่างๆ ได้เลย มีให้เลือกเกลื่อนยูทูปแน่นอน

Wednesday, September 19, 2012

Fruity Review #4


Rita Ora
Ora
6/10

ท่ามกลางสภาวะนักร้องหญิงล้นตลาด รบราฆ่าฟันกันอยู่ทุกวันนี้ ที่ไปไม่รอดก็เห็นตายเกลื่อนเลือนหายไปจากคลื่นวิทยุก็ใช่น้อย จะมีซักกี่คนที่ได้สิทธิ์ถือไพ่เหนือกว่าได้ทัดเทียมกับนางที่จะพูดถึงวันนี้ได้ เพราะ Rita Ora  คือสาวหน้าเข้มชาวอังกฤษ วัยเพียง 22 ปี เชื้อสายอัลเบเนียที่ต้องสืบสาแหรกไปไกลถึงโคโซโวนู้น ที่ว่าได้เปรียบนั้นก็คงหนีไม่พ้นสัญญาพันล้านของค่าย RocNation ที่ส่งให้เธอกลายเป็นน้องสาวสุดที่รัก และไพ่ไม้ตายใบสุดท้าย Jay-Z ที่ลงทุนกระโหมโปรโมทป้อนงานอย่างไม่หยุดหย่อน แถมแท็กมือกับ VEVO ช่วยกันปั่นยอดวิวใน Youtube กันอย่างขะมักเขม้น จะไม่ให้ขึ้นอันดับหนึ่ง UK Single Chart สามเพลงรวดยังไงไหว แถมอัลบั้มเดบิวต์นามว่า Ora ที่ออกมาเมื่อเดือนที่แล้ว ยังได้ดีเจและนักแต่งเพลงมือฉมังมาร่วมสังฆกรรมกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ไม่ว่าจะเป็น Chase and Status, Stargate, Diplo, will.i.am, Drake, Sia Furler,  Kanye West และอื่นๆอีกมากมายเกินจะร่ายให้ศิลปินหญิงค่ายอื่นต้องตาร้อนผ่าว เรียกว่าเครดิตยาวเป็นหางว่าวพอๆกับอัลบั้มของศิลปินใหญ่ๆเลยทีเดียว นี่แหละหนาที่เค้าว่าเลือกลูกพี่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

แต่อนิจจา เมื่อชื่อเสียงย่อมมากับกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นเงาตามตัว เมื่อเธอมักจะถูกค่อนแคะว่าเป็นรีฮานน่าตัวสำรองบ้าง รีฮานน่าเวอร์ชั่นบริติชบ้าง ถูกเทียบกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ของเจย์ซีแบบนี้ก็ต้องหงุดหงิดเป็นธรรมดา คำก็รีฮานน่า สองคำก็รีฮานน่า ก็แหงซิหล่อนแหงนขึ้นไปดูหน้าปกอัลบั้มให้ดี แล้วเทียบกับ Talk That Talk ว่ามันเหมือนกันขนาดไหน -- ต้องยอมรับว่าวงการเพลงป็อปโดยเฉพาะนักร้องหญิง เรื่องรูปลักษณ์นั้นสำคัญ จะขายได้ไม่ได้บางทีก็ต้องดูกันตรงนี้ อย่างแม่ริต้านี่ถึงแม้เสียงร้องออกจะประเสริฐเลิศล้ำ แต่ก็ต้องประสบปัญหาใหญ่เกี่ยวกับอัตลักษณ์ที่ไม่ใช่แค่เสื้อผ้าหน้าผม แต่ในเนื้อหาดนตรีในอัลบั้มที่ต้องงมกันยกใหญ่ เพราะดูหนูไม่รู้จะไปทางไหนซักทาง

Ora เปิดตัวด้วย Facemelt แทร็คอินโทรหวือหวาเดาไม่ยากว่าเป็นผลงานของนาย Diplo เป็น 1.30 นาทีที่อัดแน่นไปด้วยความดิบ กร่าง และสร้างความเข้าใจผิดให้กับแทร็คอื่นๆที่ตามหลัง Roc The Life ป็อปร็อคฟังง่ายกับท่อนฮุค "ไล ไล ไล" ฟังดูติดหู แต่พอหนักข้อเข้าก็เริ่มอิ่มเอียนชวนอ้วกอยู่ไม่น้อย ต่อด้วย How We Do (Party) เพลงปาร์ตี้ของสาววัยละอ่อนก่อนเข้าผับ น่ารักน่าเอ็นดูด้วยท่อนฮุคที่ถูกออกแบบมาให้แหกปากร้องพร้อมกันหลายๆคนได้สบาย เดินตามรอยเท้า Last Friday Night ไปติดๆ R.I.P ซิงเกิ้ลเปิดตัวในอเมริกา ที่จับเอากีตาร์ไฟฟ้ามาชนกับจังหวะกึ่ง Dubstep สไตล์ Chase and Status ออกมาได้หน่วง เหนื่อย ไม่ไปไหนซักที แต่ได้คะแนนดีตรงที่่มีเนื้อร้องเท่ๆ จึงรอดตัวไปอย่างหวุดหวิด

แต่ก็ใช่ว่าจะลุ่มๆ ดอนๆ เสมอไป บางเพลงที่ชนะใสๆ ก็มีมาให้เห็นเช่น Radioactivity จากปลายปากกาของสาว Sia Furler ที่เปิดด้วยอินโทรแว่วเสียง Jennifer Hudson มาแต่ไกล ปูพื้นด้วยอิเล็คโทรป็อปที่เหลือช่องไว้ให้เสียงร้องเพราะๆ ของริต้าอย่างพอดี Hot Right Now งาน Drum & Bass มันส์ๆจาก DJ Fresh ที่ได้สาวริต้ามาร้องให้จึงได้ผลบุญมาใส่ไว้ในอัลบั้ม ขอแนะนำว่าอย่าเปิดฟังขณะขับรถเพราะอาจมันส์จัดเหยียบเต็มคันเร่งจมไม่รู้ตัว

สำหรับอัลบั้มนี้ขอให้ 6 เต็ม 10 เพราะคิดว่ายังมีปัญหาเกี่ยวกับความเป็นตัวของตัวเองอย่างที่บอกอยู่ไม่น้อย คือไม่รู้ว่าจะอธิบายอัลบั้มนี้อย่างไรโดยที่ไม่ต้องยกงานของคนอื่นมาเทียบ Ora ฟังดูคล้ายกับรีฮานน่าเวอร์ชั่นไม่ดัดจริต ไม่ติดเรท เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย เข้าถึงง่ายแม้หลายเพลงดู playsafe ไปหน่อย แต่ก็ไม่ถึงขั้นต้องตกอับเพราะยังมีเสียงแหบกร้าน และมาดแมนแบบผู้ชายนิดๆ แต่ก็ดูน่ารักน่าชัง ผสมการเทคนิก add lip ที่ลื่นหูไม่แพ้ใคร ไม่เป็นไรเพราะยังคงต้องอาศัยการโตขึ้นในอัลบั้มต่อไปได้เสมอ ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่โดนเจย์ซีเขี่ยทิ้งเหมือนพี่ฮิวโก้ซะก่อนละนะ

Love This, Try These: Jessie J, Cher Lloyd, Nicole Scherzinger, Chrisette Michelle

About Me

My photo
my name is mish my favorite color is turquoise when i grow up I want to be an architect